โลกเรียกร้อง "ไทย-กัมพูชา" หยุดยิง หนุน 2 ฝ่ายหันหน้าเจรจา

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2568 โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ไทยและกัมพูชาเป็นประเทศเพื่อนบ้านซึ่งจะอยู่ร่วมกันตลอดไป ขณะนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือยุติการสู้รบและการคุ้มครองประชาชนพลเรือน จีนหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะคำนึงถึงการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในพื้นที่ชายแดน รวมถึงผลประโยชน์ของประชาชน ใช้ความอดกลั้นอย่างถึงที่สุด และดำเนินมาตรการทุกประการที่เอื้อต่อการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงและการลดความตึงเครียดโดยเร็ว โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุด้วยว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จีนได้ติดต่อสื่อสารอย่างใกล้ชิด ดำเนินการไกล่เกลี่ยและส่งเสริมการเจรจาอย่างแข็งขัน เพื่อสร้างโอกาสและจัดเตรียมเวทีสำหรับการพูดคุยระหว่างกัน นอกจากนี้ยังย้ำว่า จีนสนับสนุนให้ไทยและกัมพูชาดำเนินการเจรจาและหารือกันโดยตรง สนับสนุนความพยายามในการไกล่เกลี่ยและส่งเสริมการเจรจาของอาเซียน และสนับสนุนการแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถยอมรับได้ ภายใต้กรอบความร่วมมือของอาเซียน โดยจีนจะมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในแนวทางของตนเองต่อไปเพื่อผลักดันการหยุดยิงและฟื้นฟูสันติภาพ "รัสเซีย-ฝรั่งเศส" ร้องไทย-กัมพูชาปฏิบัติตามถ้อยแถลง ก่อนหน้านี้ สถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย เผยแพร่เนื้อหาจากการแถลงข่าวโดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ระบุว่า รัสเซียเรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายเข้าสู่กระบวนการเจรจาหยุดยิงโดยเร็ว และแก้ไขความขัดแย้งร่วมกันตามถ้อยแถลงที่ได้ลงนามไว้ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ขณะที่เฟซบุ๊กสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย ออกมากล่าวถึงกรณีมีการเผยแพร่ข่าวจากสื่อบางแห่งในไทย เกี่ยวกับความเป็นไปได้ว่าจะมีพลเมืองชาวรัสเซียเข้ามาพัวพันในฐานะทหารรับจ้าง ที่ถูกฝ่ายกัมพูชาว่าจ้างให้มาเข้าร่วมในความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา สถานเอกอัครราชทูตรัสเซีย ระบุว่า ข่าวดังกล่าวไม่มีมูลความจริงและมีแนวโน้มว่าจะถูกสร้างขึ้นจากแหล่งข้อมูลนอกภูมิภาค มีเป้าหมายเพื่อบั่นทอนสิทธิพลเมืองชาวรัสเซียที่พำนักอยู่ในประเทศไทยในฐานะนักท่องเที่ยวหรือประกอบธุรกิจ เป็นการสร้างความเสียหายต่อมิตรภาพอันยาวนานระหว่างประเทศรัสเซียและไทย พร้อมย้ำว่ารัสเซียมีความสัมพันธ์อันเป็นมิตรและมีความร่วมมือกับไทยและกัมพูชา โดยขอยืนยันและสนับสนุนการแก้ไขข้อพิพาทนี้โดยสันติวิธีเท่านั้น ด้านกระทรวงกิจการยุโรปและการต่างประเทศของฝรั่งเศส เรียกร้องให้ทั้งไทยและกัมพูชายุติการสู้รบโดยด่วนที่สุดเช่นกัน พร้อมกลับเข้าสู่การเจรจาตามถ้อยแถลงดังกล่าว เพื่อมุ่งสู่การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างกันโดยสันติวิธี APHR ร้อง "ไทย-กัมพูชา" หยุดยิงทันที ส่วนกลุ่มสมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชน (APHR) เรียกร้องให้ไทยและกัมพูชาหยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไขและต้องคุ้มครองพลเรือนอย่างเต็มที่ รวมถึงเปิดทางให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าถึงทุกชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งตามแนวชายแดนอย่างปลอดภัย แถลงการณ์ของ APHR ระบุว่า นับตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค. มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 40 คน มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกเกือบ 200 คนจากการโจมตีด้วยจรวด ปืนใหญ่และการโจมตีทางอากาศ มีประชาชนระหว่าง 330,000 - 600,000 คนอาศัยอยู่ในศูนย์อพยพ ต้องนอนบนพื้น แบ่งปันอาหารอย่างจำกัดและถูกพรากจากทุกสิ่งที่สร้างมาทั้งชีวิต พร้อมทั้งระบุว่าสถานการณ์ฉุกเฉินด้านมนุษยธรรมตามแนวชายแดนอยู่ในระดับวิกฤต APHR เรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์การสหประชาชาติ ประเทศสมาชิกอาเซียน และประเทศที่มีอิทธิพลต่อทั้งประเทศไทยและกัมพูชา ใช้แรงกดดันทางการทูตในทันที และอำนวยความสะดวกในการเจรจาที่ให้ความสำคัญกับชีวิตมนุษย์เหนือข้อเรียกร้องด้านดินแดน มาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน ได้เป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยข้อตกลงสันติภาพกัวลาลัมเปอร์ในเดือน ต.ค. แต่เมื่อข้อตกลงดังกล่าวถูกละเมิดและการสู้รบกลับมาปะทุอีกครั้ง ฟิลิปปินส์ซึ่งรับตำแหน่งประธานอาเซียนต่อในช่วงปลายเดือน ต.ค. จำเป็นต้องใช้บทบาทผู้นำเพื่อกดดันทั้ง 2 รัฐบาลให้ปฏิบัติตามพันธกรณีและยุติการสู้รบทุกรูปแบบโดยทันที อ่านข่าว ส่องอาวุธ "จีน" ในคลังแสง "กัมพูชา" ชายแดนสระแก้วเงียบเหงา ตั๋วเครื่องบินกัมพูชา-ไทยพุ่ง หลัง "ฮุนเซน" ระงับข้ามชายแดน