Time ยก AI บุคคลแห่งปี 2025 - Merriam Webster ให้ "Slop" คำแห่งปีสะท้อนด้านมืด AI

Time ยก AI เป็น "บุคคลแห่งปี 2025" เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2568 นิตยสาร Time ประกาศให้ "ผู้พัฒนาและผู้ขับเคลื่อนปัญญาประดิษฐ์" หรือ "สถาปนิกแห่ง AI" (The Architects of AI) เป็นบุคคลแห่งปี 2025 โดยชี้ชัดว่า นี่คือปีที่ศักยภาพของ AI ไม่ได้อยู่แค่ในห้องทดลองหรือบริษัทเทคโนโลยี แต่ได้แทรกซึมเข้าสู่ชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วโลกอย่างเต็มรูปแบบ การพิจารณาของ Time ไม่ได้มอง AI ในฐานะเครื่องจักรหรือซอฟต์แวร์เท่านั้น หากแต่มองว่า "ผู้สร้าง ผู้ควบคุม และผู้กำหนดทิศทาง" AI คือ กลุ่มอำนาจใหม่ที่มีอิทธิพลเทียบเท่ารัฐบาลหรือสถาบันขนาดใหญ่ Time วิเคราะห์ว่า ปี 2025 คือจุดเปลี่ยนที่สังคมโลกตระหนักตรงกันว่า ไม่มีใครสามารถเลือก "ไม่ใช้ AI" ได้อีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจ การศึกษา สื่อ บันเทิง หรือแม้แต่การเมือง เทคโนโลยีนี้ได้กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานของระบบเศรษฐกิจและสังคม รายชื่อบุคคลบนปก ได้แก่ แซม อัลต์แมน (ผู้พัฒนา OpenAI), มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (ผู้พัฒนา Meta), อีลอน มัสก์ (ผู้พัฒนา xAI), ลิซ่า ซู (ผู้พัฒนา AMD) สะท้อนภาพของ "ชนชั้นผู้นำโลกยุคอัลกอริทึม" ที่ไม่ได้ถืออาวุธ แต่ถือข้อมูล โมเดล และศูนย์ข้อมูลขนาดมหาศาล อย่างไรก็ตาม การยกย่องครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางสัญญาณเตือนด้านเศรษฐกิจ เมื่อบริษัทเทคโนโลยีเริ่มเผชิญต้นทุน AI ที่พุ่งสูงเกินคาด กรณีหุ้น Oracle ร่วงแรงจากการประกาศงบลงทุน AI มูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ กลายเป็นภาพสะท้อนว่า AI ไม่ได้มีแต่ด้านสวยงาม หากยังมาพร้อมความเสี่ยงด้านการเงิน หนี้สิน และความคุ้มค่าในระยะยาว แต่การเลือก ผู้พัฒนา AI เป็นบุคคลแห่งปีของ Time อาจถูกมองว่าเป็นทั้งการยอมรับความจริง และการส่งสัญญาณเตือนกลาย ๆ ว่า อำนาจกำลังเคลื่อนจากมนุษย์สู่ระบบอัตโนมัติอย่างรวดเร็ว AI สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเปิดโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจ แต่ขณะเดียวกันก็สร้างคำถามใหญ่เกี่ยวกับคุณภาพงาน ความคิดสร้างสรรค์ การจ้างงาน และความจริงแท้ของข้อมูลในโลกออนไลน์ Merriam-Webster เลือก "Slop" คำแห่งปี 2025 ในขณะที่ Time เชิดชู AI ในฐานะพลังเปลี่ยนโลก แต่พจนานุกรม Merriam-Webster กลับสะท้อนอีกด้านของเหรียญ ด้วยการเลือกคำว่า "Slop" เป็นคำแห่งปี 2025 ซึ่งสะท้อนปัญหาคุณภาพของโลกดิจิทัลยุค AI ได้อย่างตรงจุด Merriam-Webster สำนักพจนานุกรมและองค์กรด้านภาษาอังกฤษที่มีชื่อเสียงและอิทธิพลมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีบทบาทสำคัญในการกำหนดมาตรฐานความหมาย การสะกด และการใช้คำภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะในสังคมอเมริกัน และยังทำหน้าที่เป็น "กระจกสะท้อนสังคมไ ผ่านการติดตามคำที่ผู้คนค้นหามากขึ้นในแต่ละปี และเลือก "คำแห่งปี" เพื่ออธิบายอารมณ์ ความกังวล และการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมของสังคมในช่วงเวลานั้น ๆ ให้นิยามคำว่า "Slop" ในบริบทสมัยใหม่ว่า คอนเทนต์ดิจิทัลคุณภาพต่ำ ที่มักถูกผลิตออกมาเป็นจำนวนมากด้วยปัญญาประดิษฐ์ ครอบคลุมตั้งแต่วิดีโอไร้สาระ ภาพไวรัลที่ไม่มีที่มา หนังสือเขียนโดย AI ไปจนถึงบทความที่ผลิตซ้ำ ๆ โดยแทบไม่ผ่านการกลั่นกรอง Merriam-Webster ยังอธิบายว่า ปรากฏการณ์ Slop ไม่ได้เกิดจาก AI เพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากแรงจูงใจของแพลตฟอร์มและผู้ผลิตคอนเทนต์ ที่เน้นปริมาณ ความเร็ว และอัลกอริทึม มากกว่าคุณภาพและความหมาย คำว่า Slop มีรากศัพท์ย้อนไปถึงศตวรรษที่ 18 ซึ่งหมายถึงโคลนเหลว ก่อนจะพัฒนาเป็นคำเรียกเศษอาหาร ของเหลือ และของไร้ค่า ในศตวรรษที่ 19 จนกลายเป็นคำเปรียบเปรยถึง "ข้อมูลขยะ" ในยุคดิจิทัล Merriam-Webster ระบุว่า สังคมมีท่าที 2 ขั้วต่อคำว่า Slop บางคนรู้สึกรำคาญ เบื่อหน่าย และมองว่าคอนเทนต์ขยะกำลังทำให้เปลืองอินเทอร์เน็ต ขณะที่อีกจำนวนไม่น้อยกลับเสพคอนเทนต์ลักษณะนี้อย่างไม่รู้ตัว เพราะมักถูกออกแบบมาให้ดึงดูดและเสพง่าย Merriam-Webster ยังยอมรับว่า คำว่า Slop แฝงด้วยความหมายเชิงประชดประชันต่อ AI แม้จะถูกเรียกว่า "ปัญญาประดิษฐ์" แต่ผลงานจำนวนมากกลับขาดความคิดสร้างสรรค์ ความลึก และความเป็นมนุษย์ นอกจากนี้ ยังมีคำอื่นที่ถูกเสนอเป็นคำแห่งปี เช่น "Gerrymander" ที่สะท้อนเกมการเมืองเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งในสหรัฐ "Touch grass" ที่กลายเป็นเป้าหมายชีวิตของคนอยากหนีหน้าจอ และ "Performative" ที่ชี้พฤติกรรมทำเพื่อภาพลักษณ์ในสังคมออนไลน์ ทั้งนี้ Merriam-Webster เป็นองค์กรล่าสุดที่เลือกคำแห่งปีที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับเทคโนโลยีและ AI ต่อจาก Collins ที่เลือก "vibe coding" Cambridge เลือก "parasocial" และ Oxford เลือก "rage bait" ซึ่งทั้งหมดชี้ถึงปัญหาสมัยใหม่จากเทคโนโลยี เมื่อพิจารณาควบคู่กัน การเลือก AI เป็นบุคคลแห่งปีของ Time และการเลือก Slop เป็นคำแห่งปีของ Merriam-Webster ไม่ได้ขัดแย้งกัน หากแต่สะท้อนภาพเดียวกันจากคนละมุม AI คือพลังที่กำลังเปลี่ยนโลกอย่างแท้จริง แต่ในขณะเดียวกัน โลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI ก็เสี่ยงเต็มไปด้วยข้อมูลที่ล้นเกิน คอนเทนต์คุณภาพต่ำ ปี 2025 จึงอาจถูกจดจำ แต่ไม่ใช่แค่ในฐานะ "ปีแห่ง AI" แต่เป็นปีที่มนุษย์ต้องตัดสินใจว่า จะใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อยกระดับสังคม หรือปล่อยให้โลกดิจิทัลจมอยู่ใน Slop อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่มาข้อมูล : Merriam-Webster’s 2025 word of the year takes aim at poor AI content , Time picked a rough day to announce its ‘Person of the Year’ อ่านข่าวอื่น : "สีหศักดิ์" ดอดเข้า "พรรคภูมิใจไทย" ถ่ายรูป ปัดตอบลงปาร์ตี้ลิสต์ ปชป.เตรียมเผยโฉมผู้สมัคร สส.กรุงเทพฯ 22 ธ.ค.นี้ พายุถล่มบราซิล รูปปั้นเทพีเสรีภาพจำลอง ล้มหัวกระแทกพื้น