ขนส่งฯ เร่งออกแนวทางติดตั้งสัญญาณเตือนในรถ แก้ไขปัญหา ดัมพ์รถบรรทุกยกเอง

วันนี้ (18 ธ.ค.2568) นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตามที่มีเหตุการณ์ วันที่ 18 ธ.ค.2568 รถบรรทุกยกเท (รถดัมพ์) กระบะยกขึ้นและชนเข้ากับสะพานลอยคนข้ามถล่มลงมาทับหัวเก๋งรถบรรทุกและรถกระบะบนถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ กรมการขนส่งทางบก เร่งออกแนวทางยกระดับมาตรการความปลอดภัยโดยกำหนดให้บริษัทผู้ผลิตรถ อู่ต่อตัวถังรถ ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าและเจ้าของรถบรรทุกยกเท (รถดัมพ์) ต้องติดตั้งอุปกรณ์เตือนผู้ขับรถด้วยสัญญาณเสียงและไฟ หากมีการยกกระบะขึ้นหรือกระบะลงไม่สุด โดยจะให้มีผลบังคับใช้โดยเร็วทั้งกับรถใหม่และรถที่จดทะเบียนอยู่แล้ว โดยหลักการการทำงานอุปกรณ์แจ้งเตือนในห้องผู้ขับรถ ด้วยสัญญาณแสงและเสียงหากมีการยกกระบะขึ้นหรือกระบะลงไม่สุดก็จะมีแสงและเสียงเตือนผู้ขับรถทำให้ผู้ขับพึงระวังและสัญญาณเตือนจะหยุดก็ต่อเมื่อกระบะท้ายรถบรรทุกลงสุดเท่านั้น อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบกจะให้รถบรรทุกยกเท (รถดัมพ์) ต้องติดตั้งอุปกรณ์เตือนผู้ขับรถด้วยสัญญาณเสียงและไฟให้มีผลบังคับใช้กับรถใหม่โดยเร็ว และจะให้มีผลกับรถบรรทุกกระบะยกเทที่จดทะเบียนอยู่แล้วทั้งสิ้นกว่า 377,000 คัน ต่อไปด้วย ทั้งนี้ ประโยชน์ของการติดตั้งอุปกรณ์เตือนด้วยเสียงและไฟ หากมีการยกกระบะหรือกระบะลงไม่สุดนั้น ก็เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุกระบะบรรทุกยกขึ้นหรือกระบะลงไม่สุดชนสะพานลอย อุโมงค์ หรือทางลอดใต้สะพาน ซึ่งเป็นการยกระดับความปลอดภัยป้องกันอุบัติเหตุต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยในปัจจุบัน กรมการขนส่งทางบกได้กำชับให้ผู้ขับรถหมั่นตรวจสอบกระบะบรรทุกให้อยู่ในตำแหน่ง ลงต่ำสุด รวมถึงปลดอุปกรณ์ส่งกำลังสำหรับยกกระบะขณะขับรถทุกครั้ง ทั้งนี้ หากเกิดอุบัติเหตุที่มีสาเหตุจากกระบะบรรทุกยกขึ้นระหว่างขับขี่ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งอาจมีความผิดตามมาตรา 36 ประกอบมาตรา 131 ตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522 ต้องระวังโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท ส่วนผู้ขับรถอาจมีความผิดตามมาตรา 111 ประกอบมาตรา 161 ปรับ ไม่เกิน 5,000 บาท สกรีน สส.ไม่ให้ไปต่อ เรื่องใหม่ที่ “พรรคประชาชน” ฉีกกฎ "ภูมิใจไทย" เผย ภาคใต้ 59 เขต คนแห่สมัครครบแล้ว สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ จ.สระแก้ว วันที่ 11 การปะทะยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง