องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ เตือน สธ.หวั่นจัดซื้อเครื่อง "TMS คอยล์คู่" ส่อทุจริต

วันนี้ (22 ธ.ค.2568) องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า คณะทำงาน ACTAi ได้รับการร้องเรียนจากพลเมืองดี ให้ช่วยตรวจสอบการจัดซื้อครุภัณฑ์แพทย์ รายการ “เครื่องกระตุ้นระบบประสาทด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อวินิจฉัยและรักษาระบบประสาทแบบคอยด์คู่” (Transcrantial Magnotic Stimulation System หรือ TMS) ซึ่งเป็นงบประมาณปี 2569 กระทรวงสาธารณสุข ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 134 เครื่อง กำหนดงบประมาณการจัดซื้อเท่ากับราคากลางไว้เครื่องละ 4.5 ล้านบาท คิดเป็นงบประมาณทั้งสิ้น 603 ล้านบาท ผลจากการตรวจสอบข้อมูลผ่านระบบ ACTAi ล่าสุด พบว่ามีจำนวน 27 โรงพยาบาลที่ได้ประกาศแผนการจัดซื้อเครื่อง TMS แบบคอยด์คู่ในระบบกรมบัญชีกลาง ในจำนวนนี้มี 12 โรงพยาบาลที่ดำเนินการจัดซื้อเครื่องมือดังกล่าวจริง โดยแต่ละโรงพยาบาลจะมีสถานะการจัดซื้อแตกต่างกัน ตั้งแต่การประกาศเชิญชวน การจัดทำสัญญา การอนุมัติสั่งซื้อ การประกาศชื่อบริษัทที่ชนะและการทำสัญญากับบริษัทที่ชนะ ซึ่งทยอยแสดงผลต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ประกอบด้วย 1.รพ.นครปฐม, 2.รพ.บึงกาฬ, 3.รพ.แม่สอด, 4.รพ.ชุมพรเขตอุดมศักดิ์, 5.รพ.กระบี่, 6.รพ.เลย, 7.รพ.พระปกเกล้า, 8.รพ.นราธิวาสราชนครินทร์, 9.รพ.สมเด็จพระยุพราชสว่างแดนดิน จ.สกลนคร, 10.รพ.พระนั่งเกล้า ส่วนอีก 2 โรงพยาบาลได้ประกาศยกเลิกการจัดซื้อ ได้แก่ 11.รพ.ขอนแก่น (ยกเลิกเมื่อวันที่ 21 ต.ค.2568) และ 12.รพ.บึงกาฬ (ยกเลิกเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2568) ทั้งนี้ในจำนวน 10 โรงพยาบาลที่ดำเนินการจัดซื้อ ปรากฏว่า บริษัทเสนอราคารายที่ชนะเกือบทั้งหมด ได้เสนอราคาต่ำกว่าราคากลางเพียง 5,000-20,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 0.11-0.44 เท่านั้น ยกเว้นที่เดียวคือ “รพ.พระปกเกล้า” ได้ทำสัญญาจัดซื้อกับบริษัทที่ชนะการนำเสนอราคาที่ 1.95 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าราคากลางมากถึง 2.55 ล้านบาท เป็นที่มาของการตั้งคำถามถึงความไม่ชอบมาพากลในการกำหนดราคากลางว่าน่าจะสูงกว่าราคาตลาดเกินครึ่ง และหวั่นว่าโครงการนี้ส่อเค้าทุจริต และหากเป็นเช่นนั้นจริงคาดว่าจะมีเงินทอนจากการจัดซื้อต่อเครื่องสูงถึง 2.55 ล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 341 ล้านบาทสำหรับประมาณการจัดซื้อทั่วประเทศ 134 เครื่อง อีกทั้งยังพบข้อคลาดเคลื่อนของ “รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ” หรือสเปกครุภัณฑ์ จึงส่งผลให้ “รพ.ขอนแก่น” ประกาศยกเลิกการจัดซื้อโครงการนี้ โดยให้ข้อมูลไว้ในระบบว่า “เนื่องจาก จ.ขอนแก่น พบข้อคลาดเคลื่อนของรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะครุภัณฑ์การแพทย์ฯ ในส่วนที่เป็นสาระสำคัญ ซึ่งหากดำเนินการจัดซื้อต่อไปอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่หน่วยงานของรัฐหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ..” นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจว่า การจัดหาเครื่องมือในลักษณะเดียวกัน โดยโรงพยาบาลที่ไม่สังกัดกระทรวงสาธารณสุขกลับจัดหาด้วยวิธีการเช่า เช่น คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เช่าเครื่องกระตุ้นระบบประสาทด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า จำนวน 1 เครื่อง (ปีงบประมาณ 2568-2572) โดยวิธีเฉพาะเจาะจง ด้วยราคาค่าเช่ารวม 5 ปี เพียง 3.64 ล้านบาท หรือกรณีของโรงพยาบาลสิรินธร ได้จัดซื้อเครื่องกระตุ้นระบบประสาทส่วนปลายด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า1 เครื่อง ด้วยงบประมาณเพียง 7.5 แสนบาท ขณะที่โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ ได้จัดซื้อเครื่องมือนี้เป็นงบประมาณสูงถึง 1.5 ล้านบาทในช่วงปีงบประมาณ 2567-2568 “คำถามที่น่าสนใจคือ ทำไมโรงพยาบาลแต่ละแห่งจัดซื้อจัดหาเครื่องแบบเดียวกันในราคาแตกต่างกันมาก และจากการรับฟังความเห็นของแพทย์ผู้ชำนาญการหลายคนให้ความเห็นว่า การเช่ามีข้อดีเพราะเทคโนโลยีใหม่เปลี่ยนแปลงเร็ว และเรายังได้รับข้อมูลอีกว่าให้จับตาการจัดซื้อนี้เพราะจะมีการดำเนินการที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว ก่อนการเลือกตั้ง” แหล่งข่าวกล่าว นายมานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวถึงกรณีนี้ว่า หลายคนเป็นห่วงว่าการจัดซื้อครั้งนี้อาจทำให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนับร้อยถูกไต่สวน หรือดำเนินคดี ไม่ต่างจากคดีฟุตซอล สำหรับเครื่อง “เครื่องกระตุ้นระบบประสาทด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อวินิจฉัยและรักษาระบบประสาทแบบคอยด์คู่” ในเชิงเทคนิคใช้ประโยชน์ในการรักษาโรคต่างๆ เช่น โรคซึมเศร้า, โรคหลอดเลือดสมอง, ฟื้นฟูอัมพฤกษ์อัมพาต, ไมเกรน, OCD, พาร์กินสัน และอาการปวดเรื้อรัง ฯลฯ ในประเทศไทยจะมีบริษัทที่เป็นผู้นำเข้าเครื่องมือทางการแพทย์ประเภทนี้จำนวนหนึ่ง ทั้งบริษัทคนไทยและบริษัทร่วมทุนจีน การจะระบุว่าบริษัทไหนชนะการจัดซื้อเครื่อง TMS แบบคอยด์คู่ในประเทศไทย มีความซับซ้อนเนื่องจากการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐไทยดำเนินการโดยโรงพยาบาลหรือสถาบันแต่ละแห่งแยกกัน ผ่านระบบประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ของกรมบัญชีกลาง ดังนั้นจะไม่มีบริษัทใดบริษัทหนึ่งที่ชนะการจัดซื้อ “ทั่วประเทศ” แต่จะมีการประกาศผู้ชนะเป็นโครงการๆ ไปสำหรับแต่ละโรงพยาบาล ส่วนรายชื่อ 27 โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่ประกาศจัดซื้อเครื่องTMS แบบคอยด์คู่ ปีงบประมาณ 2569 ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 19 ธ.ค.2568 ประกอบด้วย 1.รพ.เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีระยอง, 2.รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว, 3.รพ.สมเด็จพระยุพราชสว่างแดนดิน จ.สกลนคร, 4.รพ.สมเด็จพระยุพราชเดชอุดม, 5.รพ.นครพิงค์ จ.เชียงใหม่, 6.รพ.แม่สอด จ.ตาก, 7.รพ.สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จ.ตาก, 8.รพ.กำแพงเพชร, 9.รพ.ชัยนาทนเรนทร, 10.รพ.นครนายก 11.รพ.พระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี, 12.รพ.พหลพลพยุหเสนา จ.กาญจนบุรี, 13.รพ.นครปฐม, 14.รพ.พระปกเกล้า, 15.รพ.พัทยาปัทมะคุณ, 16.รพ.ขอนแก่น, 17.รพ.บึงกาฬ, 18.รพ.เลย, 19.รพ.มหาราชนครราชสีมา, 20.รพ.บุรรีรัมย์, 21.รพ.ปราสาท จ.สุรินทร์, 22.รพ.ยโสธร, 23.รพ.อำนาจเจริญ, 24.รพ.กระบี่, 25.รพ.ชุมพรเขตอุดมศักดิ์, 26.รพ.นราธิราสราชนครินทร์ และ 27.รพ.ปัตตานี อ่านข่าว "สีหศักดิ์" ยืนยันยังไม่มีการหยุดยิง นัดถก GBC ไทย-กัมพูชา 24 ธ.ค.นี้ “พาณิชย์”  จับมือ 17 หน่วยงาน ปราบนอมินี–บัญชีม้า  สกัดภัยร้ายทางเศรษฐกิจ ผบ.ตร.เชื่อมีตำรวจเอี่ยว 3 นาย คลิปเสียงเรียกรับผลประโยชน์นครศรีฯ