เปิดประวัติ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย

ศึกเลือกตั้ง 2569 พรรคเพื่อไทย เปิด 3 รายชื่อ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2568 หนึ่งในรายชื่อคือ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นผู้ได้รับการเสนอตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯ ด้วย โดยอีก 2 ชื่อนั้นคือ ศ.ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ และ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ช่วงหนึ่งของการแสดงวิสัยทัศน์ นายสุริยะ ย้ำความพร้อมในการสานต่อ2 นโยบาย "รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย - บ้านเพื่อคนไทย” หากได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอีกสมัย โดยจะขับเคลื่อนให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน โดยเฉพาะ นโยบายรถเมล์แอร์ 10 บาท นายสุริยะ ยังเชื่อมั่นว่า พรรคเพื่อไทยยังไปต่อได้ในเส้นทางการเมืองเพราะสมาชิกพรรค มีอุดมการณ์เดียวกัน ที่จะจัดทำนโยบายดี ๆ ให้กับประชาชน อีกทั้ง ยังมีคนรุ่นใหม่ที่มีพลังสร้างสรรค์ ทำงานเป็นทีมเดียวกัน และมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน ในการพัฒนาประเทศ ทั้งนี้ นายสุริยะ ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ควบตำแหน่งผู้อำนวยการการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย และที่ปรึกษาคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ส่องประวัติ "สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ มีชื่อเล่นว่า "อ๊อฟ" เกิดเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2497 เป็นคนกรุงเทพมหานคร และเป็นชาวไทยเชื้อสายจีน สำเร็จการศึกษาระดับ มัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ สหรัฐอเมริกา และ ผ่านการอบรมหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น388 ในส่วนประสบการทำงาน นายสุริยะ เป็นอดีตผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี (ในรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร) รองนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม, รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม , เลขาธิการพรรคไทยรักไทย, กรรมการ การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.), กรรมการ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย, ประธานกรรมการ บริษัท ซัมมิทอิเล็คโทรนิค คอมโพเน้นท์ จำกัด, ประธานกรรมการ บริษัท ซัมมิท แอดวานซ์ แมททีเรียล จำกัด ขณะดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร ได้ผลักดันการจัดตั้งธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม การแปรรูปการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย เพื่อพัฒนารัฐวิสาหกิจให้เป็นองค์กรหลักในการกอบกู้เศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้ประเทศ รวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทย ขณะดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาล นายทักษิณ การเร่งรัดการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ , การสนับสนุนให้มีการก่อสร้างระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายใต้ ตอน S1 , การเร่งรัดการเปิดดำเนินการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางซื่อ ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รวมถึง นโยบาย Low Cost Airlines หรือสายการบินราคาประหยัด ซึ่งเปลี่ยนโฉมหน้าของการเดินทางทางอากาศของประเทศ โดยเป็นการเพิ่มโอกาสการเดินทางของประชาชนมากขึ้น ทำให้วงจรเศรษฐกิจ การติดต่อธุรกิจหมุนเร็วขึ้น อันเป็นผลทางตรงและทางอ้อมต่อเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ และเกิดการสร้างงานในธุรกิจการบิน เช่น โครงการนักบินเอื้ออาธร โครงการแอร์โฮสเตสเอื้ออาธร นอกจากนี้ ยังผลักดันการสร้างโอกาสให้เยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้มีการเข้าถึงสายงานอุตสาหกรรมนี้ โครงการนักบินเอื้ออาธรเป็นโครงการที่รัฐบาลให้ทุนปีละ 115 ทุน เป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปี 2547-2549 การเปิดเสรีการบินของรัฐบาลมีผลทำให้ผู้โดยสาร Low Cost Airlines รวมเพิ่มจาก 79,879 คน ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2546 เป็น 471,455 คนในเดือนกันยายน พ.ศ. 2547 เที่ยวบิน Low Cost Airlines เพิ่มจาก 520 เที่ยวบิน เป็น 3,866 เที่ยวบิน รวมถึงโครงการรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi Airport Rail link) และสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง ตามแนวเส้นทางรถไฟสายตะวันออก (พญาไท-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ) ระยะทาง 28 กิโลเมตร ก็ได้รับการผลักดันและเริ่มในห้วงเวลาที่สุริยะ ดำรงตำแหน่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และเมื่อสุริยะ ได้กลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้ง ในรัฐบาลเศรษฐา และ แพทองธาร สุริยะ ได้มีส่วนสำคัญในการผลักดันนโยบาย “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” ซึ่งกำลังจะดำเนินการแล้วในช่วงปลายปี 2568 และผ่านการแก้กฎหมายรองรับโครงการแล้ว แต่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ทำให้โครงการดังกล่าวหยุดชะงักไปอย่างไม่มีกำหนด เปิดประวัติ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย เปิดประวัติ "ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์" แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย