วันนี้ ( 25 ธ.ค.2568) นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ถึงสถานการณ์การส่งออกปี 2569 คาดว่าจะเติบโตชะลอลง จากภาวะเศรษฐกิจโลกและคู่ค้าสำคัญที่ชะลอตัว ผลของมาตรการภาษีสหรัฐฯ เริ่มชัดเจนขึ้น ปัญหาด้านราคาและค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นส่งผลต่อขีดความสามารถทางการแข่งขัน ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงอยู่ และปัญหาสภาพอากาศรุนแรงจะส่งผลต่อสินค้าเกษตร ดังนั้นปี2569 กระทรวงพาณิชย์จะเน้นการเร่งเจรจาความตกลง Reciprocal Trade กับสหรัฐฯ ให้แล้วเสร็จ พร้อมกับเพิ่มความเข้มงวดเรื่องถิ่นกำเนิดสินค้า รวมไปถึงกวาดล้างธุรกิจนอมินี และเดินหน้าเจรจาและผลักดันการใช้ประโยชน์จาก FTA สร้างแต้มต่อทางการค้า และร่วมมือกับภาคเอกชนผลักดันเป้าหมายการส่งออกให้เติบโตท่ามกลางอุปสงค์ที่อ่อนแอและความไม่แน่นอนที่ยังมีต่อเนื่องในปีหน้า ส่วนแนวโน้มการส่งออกในช่วงที่เหลือของปี 2568 สนค.คาดว่าจะขยายตัวมากกว่าที่คาด ในระดับสองหลัก โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีความต้องการในระดับสูง และการดำเนินมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ กับจีน และประเทศต่าง ๆ ผ่อนคลายลงกว่าช่วงต้นปี โดยการส่งออกของไทยในเดือนพ.ย. 2568 มีมูลค่า 27,445.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ890,204 ล้านบาท ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 17 ที่7.1% ,นำเข้า มีมูลค่า 30,172.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 17.6% ,ขาดดุลการค้า มูลค่า 2,726.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สาเหตุที่ส่งออกเดือนพ.ย.ยังขยายตัว เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนหลักจากการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ตามวัฏจักรขาขึ้นของคอมพิวเตอร์และการเติบโตของเทคโนโลยีสมัยใหม่ AI ส่งผลให้ภาพรวมของสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ผอ.สนค.กล่าวว่า ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ยังคงสร้างความไม่แน่นอนต่อการค้าในระยะข้างหน้า ด้วยสัญญาณการชะลอตัวของตลาดสำคัญ เช่น จีน ญี่ปุ่น CLMV ขณะที่การส่งออกสินค้าเกษตรของไทยยังคงอยู่ในภาวะหดตัวจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดโลก สำหรับภาพรวม 11 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออก มีมูลค่า 310,706.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 12.6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 315,662.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 12.4% ดุลการค้า ขาดดุล 4,956.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร หดตัว9.5% ต่อเนื่อง 4 เดือน ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร หดตัว 2.3% ซึ่งสินค้าเกษตรสำคัญที่หดตัว เช่น ข้าว ยางพารา อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และน้ำตาลทราย ส่งผลให้ 11 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร หดตัว0.7% ในขณะที่การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัว 12.2 % ต่อเนื่อง 20 เดือน สินค้าสำคัญที่ขยายตัว อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) เครื่องโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ แผงสวิตซ์และแผงควบคุมกระแสไฟฟ้า ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก ส่งผลให้11 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัว 17.1% สำหรับตลาดส่งออกสำคัญการส่งออกไปตลาดสหรัฐฯ ยังคงขยายตัวสูงและเป็นแรงหนุนภาพรวมการส่งออก ขณะที่ตลาดหลัก อาทิ จีน ญี่ปุ่น และ CLMV ชะลอตัวลง ภาพรวมการส่งออกไปยังกลุ่มตลาดต่าง ๆ เช่น ตลาดหลัก ขยายตัว 7.4% โดยขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ 37.9 % สหภาพยุโรป (27) 12% และอาเซียน (5) 5.7% แต่กลับมาหดตัวในตลาด จีน ติดลบ 7.8% , ญี่ปุ่น ติดลบ8.9% ,CLMV ติดลบ 18% ขณะที่ ตลาดรอง ขยายตัว 7.6% เช่น ตลาดเอเชียใต้ ขยายตัว 52.5%, ทวีปออสเตรเลีย ขยายตัว 2.7% และสหราชอาณาจักร ขยายตัว 6.5% ส่วนตลาดตะวันออกกลาง ติดลบ 3.6%, ทวีปแอฟริกา ติดลบ 1.9%, ลาตินอเมริกา ติดลบ 1%, และรัสเซียและกลุ่ม CIS ติดลบ 24.9% และ ตลาดอื่น ๆ ติดลบ 30.1% หอการค้าไทย เผยสินค้าเกษตร ปีหน้าโต 5% นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า การส่งออกในปีนี้ ออเดอร์สินค้าเกษตรส่วนใหญ่ได้ส่งมอบไปแล้ว สำหรับแนวโน้มปีหน้า มองว่าสินค้าหลัก โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรและอาหาร น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และไม่น่าจะแย่กว่าปีนี้ ตั้งเป้าการเติบโตขั้นต่ำไว้ที่ราว 5% เพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถอยู่รอดได้ หลังจากปีนี้ยอดส่งออกหดตัวราว 7–8% ขณะที่กลุ่มสินค้าที่มีความต้องการสูง เช่น อิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ AI ยังมีแนวโน้มเติบโตดี เนื่องจากหลายประเทศต้องการเทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในอนาคต อ่านข่าว: “บาทแข็ง” เสี่ยงเสียตลาดส่งออก หอการค้าไทย เผย ข้าว–เกษตร กระทบหนัก เงินบาทสัปดาห์นี้ 31.25-31.68 บาท กรุงศรีฯ เผยแข็งค่าสุดในรอบ 4 ปีครึ่ง ไทย ใช้สิทธิFTA 9 เดือนพุ่ง 6.97% พณ.เผย "ทุเรียน-ยานยนต์สำหรับขนส่ง”ใช้สิทธิสูงสุด