ทภ.2 พบ “กับระเบิด” แสวงเครื่องอานุภาพทำลายสูงในพื้นที่ตาควาย

วันนี้ (26 ธ.ค.2568) ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุ พื้นที่สัตตะโสม-โดนตรวล-ภูผี-ซำแต ฝ่ายกัมพูชาใช้เครื่องยิงลูกระเบิด ปืนใหญ่ โดรนพลีชีพ (FPV) รถถัง และจรวด BM 21 โจมตีแนวการวางกำลังของฝ่ายเราเป็นระยะ ๆ กำลังพลปลอดภัย ฝ่ายเราใช้ปืนใหญ่และรถถัง ยิงข่มและยิงทำลายที่ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายกัมพูชา ทำการตรึงกำลังตลอดแนว และเสริมความมั่นคง ณ ที่หมายพื้นที่ผามออีแดง-ห้วยตามาเรีย-ภูมะเขือ ฝ่ายกัมพูชาใช้เครื่องยิงลูกระเบิด ปืนใหญ่ โดรนทิ้งระเบิด โดรนพลีชีพ และจรวด BM 21 ต่อแนวการวางกำลังของฝ่ายเรา โดยฝ่ายเราตอบโต้ด้วยเครื่องยิงลูกระเบิด โดรนทิ้งระเบิด และปืนใหญ่ ซึ่งสามารถทำลายเป้าหมายได้ตามแผน พื้นที่คนา ฝ่ายเราดำเนินการสถาปนาความมั่นคง ดัดแปลงที่มั่นให้แข็งแรง และตรึงกำลังในพื้นที่ พื้นที่ตาควาย ฝ่ายเราทำการตรวจค้น พิสูจน์ทราบ และกวาดล้างทุ่นระเบิด ณ ที่หมาย โดยตรวจพบ กับระเบิดแสวงเครื่องจำนวนมาก ที่ประกอบจากหัวจรวด RPG, ลูก ค. ระเบิดเคลย์มอร์ ผูกติดกับดินระเบิดคอมโพซิชัน C4 พร้อมชนวนฝักแคระเบิดยัดใส่ลังโฟม และทุ่นระเบิดดักรถถังแปะดินระเบิดคอมโพซิชัน C4 พร้อมชนวนฝักแคระเบิด ซึ่งมีอานุภาพการทำลายสูง ในวันนี้ฝ่ายกัมพูชายังระดมยิง จรวด BM 21 ใส่ฝ่ายเราอย่างต่อเนื่องฝ่ายเราใช้ปืนใหญ่ทำการยิงต่อต้าน และวางกำลังตรึงอยู่ในที่มั่น พื้นที่ตาเมือน ฝ่ายกัมพูชา ทำการโจมตีฝ่ายเราด้วยเครื่องยิงลูกระเบิด ปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลัง (ปรส.) และรถถัง ฝ่ายเราใช้ปืนใหญ่ และที่ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนตลอดแนววางกำลังของฝ่ายกัมพูชา พื้นที่อื่นแม้ว่ายังไม่มีสถานการณ์ปะทะแต่ยังอยู่ในภาวะที่ต้องเฝ้าระวังสูงสุด กองทัพภาคที่ 2 จะดำเนินทุกมาตรการอย่างเต็มขีดความสามารถ แม้ต้องแลกด้วยชีวิต เพื่อพิทักษ์รักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติ ให้ดำรงคงอยู่อย่างมั่นคง ด้วยความมีเกียรติและศักดิ์ศรีตลอดไป ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์ชายแดน ไทย- กัมพูชา พ.ต.หญิง กัญญ์ณณัฐ พรนิพัทธ์กุล ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบกแถลงว่า เหตุการณ์ที่มีกำลังพลของหน่วยเก็บกู้ทุ่นระเบิด เหยียบทุ่นระเบิดสังหาร PMN 2 บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย ส่งผลให้ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นายเมื่อวานนี้ (25 ธ.ค.68) จากการพิสูจน์ทราบในพื้นที่ พบว่า จากจุดแรกที่เกิดเหตุระเบิดไป จะพบทุ่นระเบิดสังหาร PMN2 อีก 4 ทุ่นมีการวางเรียงกันต่อกัน ตามเส้นทางการเคลื่อนของกำลังพล สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นเจตนา ทำร้ายเจ้าหน้าที่ของไทยทั้งส่วนที่เข้าไปปฏิบัติงานและผู้ที่จะเข้าไปช่วยเหลือด้วย หลักฐานเหล่านี้ ที่ประจักษ์ว่า กัมพูชากระทำผิดหลักกฏหมายสากล 2 ประการ คือ ใช้โบราณสถานปราสาทตาควาย เป็นที่ตั้งทางทหาร ผิดต่ออนุสัญญากรุงเฮก และมีการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร บุคคลซึ่งผิดต่ออนุสัญญาออตตาว่า จากนี้กองทัพบกจะได้รวบรวมหลักฐานส่งให้กับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อนำไปขยายผลในเวทีนานาชาติต่อไป ISP วิเคราะห์กัมพูชาในจุดเปลี่ยน สิ้นสุดยุคเงินฟรี สู่การเป็นรัฐลูกหนี้เต็มตัว สมช.ชง ครม.เพิ่ม​งบฯ เยียวยา​เหตุปะทะชายแดน วงเงิน​ 577 ล้าน นายกฯ เผย พล.อ.ณัฐพล - กัมพูชา ถก GBC 27 ธ.ค.จับตาลงนามหยุดยิง