วันนี้ (28 ธ.ค.68) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วยแกนนำพรรค นำสมัครรับเลือกตั้ง สส. ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ ศูนย์ราชการ  กล่าวถึงการสมัครรับเลือกตั้งในวันนี้ ว่าในการสมัครวันนี้มีความมั่นใจ มากขึ้นในการพาผู้สมัครบัญชีรายชื่อของพรรค ซึ่งประกอบไปด้วยผู้มีความรู้ความสามารถในหลายแวดวง ไม่ได้มาจากโควต้าทางการเมือง หากเปรียบเทียบกับพรรคการเมืองอื่น ทุกคนมาจากความรู้ความสามารถ ตามระบบคัดเลือกเตรียม และตั้งเป้าให้ได้สส. มากที่สุดเพื่อทำให้พรรคประชาชนเข้มแข็ง เพื่อจัดตั้งรัฐบาลที่ไม่ทำให้พรรคถูกฉีกสัญญาอีกต่อไป นายณัฐพงษ์ไม่ได้กดดันหลังจากคะแนนบัญชีรายชื่อครั้งก่อน พรรคก้าวไกล ได้ 14,000,000 เสียง  และมาถึงพรรคประชาชนที่ถูกหลายหลายคนวิเคราะห์ ซึ่งทำได้มากกว่า ที่มีการวิเคราะห์เสมอ จึงมีความมั่นใจเป็นอย่างมากว่าจะได้คะแนนเสียงมากขึ้น จึงมั่นใจว่าจะได้คะแนนเสียงเพิ่มมากขึ้น เราไม่เคยดูถูกคะแนนเสียงของประชาชน ไม่มีพรรคการเมืองใดที่จะเป็นเจ้าของประชาชนตลอดไป ดังนั้นตัวผมเองและเพื่อนเพื่อนจะมีความมั่นใจ ขนาดไหนจากวันนี้จนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ เป็นหน้าที่ของพวกเราที่จะต้องพบปะประชาชนให้ให้ได้มากที่สุดเพื่อขอคะแนนเสียง นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวถึง กรณีที่นายอนุทินเข้าใจแล้วว่า พรรคประชาชนไม่มีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 และอนาคตจะมีการเปิดทางจับมือตั้งรัฐบาลหรือไม่นั้นอยู่ที่ ว่า นายอนุทินจะยอมรับเงื่อนไขของพรรคประชาชนได้หรือไม่ เพราะอย่าลืมว่าที่ผ่านมานายอนุทินเป็นคนที่ตั้งเงื่อนไขแต่บิดเบือนคำพูดจากเวทีดีเบต โดยขอว่าเรื่องนี้ควรจบได้แล้ว เพราะมีการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญออกมาแล้ว ไม่ให้ใช้การแก้ไขมาตรา 112 ในการหาเสียงเลือกตั้ง โดยชี้ว่าทั้งนายอนุทินและนายอภิสิทธิ์ ไม่ควรนำเรื่องนี้มาใช้ในการหาเสียงอีกต่อไป นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า หากพรรคประชาชนเป็นอันดับหนึ่ง พรรคภูมิใจไทยเป็นอันดับสองจะสามารถจับมือตั้งรัฐบาลกันได้หรือไม่นั้น อยู่ที่ว่าพรรคภูมิใจไทยจะยอมรับเงื่อนไขของพรรคประชาชนได้หรือไม่ เพราะพรรคประชาชนตั้งเงื่อนไขไว้ชัดเจน ว่า 1. ตัวรัฐมนตรี หรือในอนาคตเมื่อดำรงตำแหน่ง หากมีเรื่องสีเทาหรือเรื่องยาเสพติด บ่อนพนันออนไลน์ผิดกฎหมาย หรือเครือข่ายสแกมเมอร์ ในหลักการมาตรฐานทางการเมืองของนักการเมืองจะต้องสูงกว่ามาตรฐานด้านกฎหมาย โดยไม่ต้องรอคดีจนถึงที่สุด แต่ควรแสดงความรับผิดรับผิดชอบออกจากอำนาจให้เกิดการตรวจสอบ ส่วนจะยกมือโหวตนายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี หากพรรคประชาชนได้เข้าร่วมรัฐบาล หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า เป็นเงื่อนไขที่ประกาศไปแล้วและยังคงยึดในหลักการเดิมว่าจะไม่มี สส. คนไหนที่จะยกมือให้นายอนุทินอีกต่อไป โดยยึดตามหลักการ ทั้งนี้พขอย้ำเพื่อเกิดความชัดเจนว่า การแก้ไขมาตรา 111 จะเป็นนโยบายหาเสียงของพรรคประชาชน และจะไม่เป็นนโยบายที่รัฐบาลพรรคประชาชนจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแน่นอน ส่วนในอนาคตจะดำเนินการหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับสังคมจะตกผลึกร่วมกันหรือไม่ว่าจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร สำหรับพรรคประชาชนขึ้นเสียงสนับสนุนต่อพรรคประชาชน ที่จะโหวตเลือกพรรคประชาชน ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์2569 โดยเชื่อว่าประชาชนจะทราบดีถึงจุดยืนของพรรค พรรคเห็นว่าต้องมีการพูดให้ชัดเจนเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมผู้ต้องขัง หรือผู้ที่ได้รับผลกระทบกับคดีทางการเมือง จะต้องนิรโทษกรรมทุกกลุ่ม เพราะวัตถุประสงค์ของการนิรโทษกรรมคือการหาทางออก ให้กับสังคม หากมีเฉพาะบุคคลบางกลุ่มได้รับการนิรโทษ แต่ยังมีคนอีกกลุ่มที่ไม่ได้รับเพื่อเดินหน้าสังคมต่อร่วมกันก็จะไม่เกิดความเป็นธรรม แบบนี้สังคมก็เดินหน้าต่อไม่ได้ หัวหน้าพรรคประชาชนเปิดเผยอีกว่า ให้ติดตามการประกาศ ลำดับรายชื่อว่าที่ผู้สมัครสส. บัญชีรายชื่อ ว่าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอยู่ใน 3 ลำดับแรกส่วนรายชื่ออื่นให้รอประกาศจากทางพรรคประชาชนอีกครั้งนึง โดยทุกอันดับใน 100 รายชื่อมีเซอร์ไพรส์แน่นอน โดยบางส่วนอยู่ในทีมบริหารและ ทีมบริหารบางส่วนไม่ได้อยู่ในบัญชีรายชื่อ หากพรรคประชาชนได้สร้างรัฐบาล สส.บัญชีรายชื่อ จะต้องลาออกหรือไม่ว่าอยู่ที่สปิริต ของผู้แทนราษฎรที่อยู่พรรคประชาชน เพราะต้องการเปิดให้ สภามีตัวเลือกและบุคคลที่ทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติอย่างเต็มที่ หากพรรคประชาชนเป็นรัฐบาลคนที่มีหน้าที่ฝ่ายบริหารแล้ว จะได้ใช้สรรพกำลังอย่างเต็มที่ในการทำงานฝ่ายบริหาร จะยอมรับว่ามีแนวคิดที่จะให้บัญชีรายชื่อลาออกเพื่อให้คนอื่นขยับมาทำงานอย่างเต็มที่ในสภา นายณัฐพงษ์ กล่าวถึงกรณีการทำกิจกรรมกับกลุ่มการเมืองเรื่องรณรงค์ เกี่ยวกับประชามติรัฐธรรมนูญมีการกากบาท และมีข้อหาว่าจะทำให้ไปต่อไม่ได้ว่า ขอยืนยันในหลักการว่าทุกพรรคควรจะรณรงค์ประชามติได้ไม่ว่าจะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ กับคำถามประชามติอย่างนึงอย่างใด ซึ่งกฎหมายประชามติกำหนดไว้ว่าสามารถรณรงค์ได้ เมื่อวานสิ่งที่ผมได้กล่าวไปยืนยันในจุดนี้ อยากให้ กกต. ออกมาแสดงความชัดเจน ขอให้สื่อมวลชนถามกกต. ว่าเหตุใดถึงออกมาให้ความเห็นเช่นนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ด้านนางสาวศิริกัญญา ตันสกุล กล่าว แสดงความพร้อมในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและถูกวางตัวเป็นรองนายกรัฐมนตรีว่า มีความพร้อมมาก ในการสมัครรับได้ในวันนี้รวมถึงการ สส. บัญชีรายชื่อและการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เช่นเดียวกับ นายวีระยุทธ์ กาญชูฉัตร กล่าวถึงกรณีคดี 44 สส. หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจะต้องเตรียมความพร้อมทำงานทั้งนโยบายลงรายละเอียดอย่างเต็มที่และเตรียมทำงานอย่างเต็มที่ ในการบริหาร ดังนั้นในเชิงเนื้อหาและบุคลากรมีความพร้อม จากนั้นนายณัฐพงษ์ กล่าวถึงกรณี คดี 44 สส. จะสกัดให้เป็นรัฐบาลว่า พรรคประชาชน บริหารความเสี่ยงไว้ทั้งหมดแล้ว ซึ่งคดี 44 สส. จะมีคดีอื่นที่ผู้สมัคร สส. แบบแบ่งเขตที่เคยแสดงความเห็นและถูกกระบวนการนิติสงคราม โดยได้ย้ายบางคนมาอยู่ในระบบบัญชีรายชื่อ หากมีอุบัติเหตุทางการเมืองบัญชีรายชื่อสามารถลาออกและขยับลำดับขึ้นมาได้ จึงขอให้ความมั่นใจกับประชาชนที่จะเลือกพรรคประชาชนไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้พรรคได้บริหารจัดการความเสี่ยงไว้หมดแล้ว หากพรรคประชาชนได้คะแนนเสียงมากที่สุดจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลประชาชนได้แน่นอน อ่านข่าว เปิด 10 ลำดับปาร์ตี้ลิสต์พรรคภูมิใจไทย "อนุทิน" อันดับ 1 - "ซาบีดา" ติดอันดับ 5 รับสมัครเลือกตั้ง สส.บัญชีรายชื่อ - ยื่นแคนดิเดตนายกฯ วันแรก ลุ้นจับเบอร์พรรค