วันนี้ (29 ธ.ค.2568) สถานการณ์สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชาคลี่คลายลง หลังกองทัพภาคที่ 2 ประกาศให้ประชาชนตามแนวชายแดนกลับภูมิลำเนาได้ตามปกติ หลายจังหวัดชายแดนจึงจัดขบวนรถส่งผู้อพยพจากศูนย์พักพิงกลับบ้าน ชาวบุรีรัมย์ดีใจ! กลับบ้านหลังสู้รบคลี่คลาย 20 วัน ชาวบ้านใน อ.บ้านกรวด และ อ.ละหานทราย ทยอยขึ้นรถบัสและรถสองแถว หลังพักพิงนานกว่า 20 วัน มีนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นายศรีธรรม ราชแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมปล่อยขบวน นายเนวิน ย้ำว่าไทยยึดคืนพื้นที่ของตนหมดแล้ว และหวังให้การสู้รบครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ชาวบ้านบุรีรัมย์ต่างดีใจที่ได้กลับบ้าน แม้ศูนย์พักพิงจะสะดวกสบายและมีเจ้าหน้าที่ดูแลดี แต่ยอมรับว่าไม่มีที่ไหนเหมือนบ้านตัวเอง แม้มีการเจรจาหยุดยิงแล้ว แต่หลายคนยังกังวลว่ากัมพูชาอาจไม่ซื่อสัตย์ ชาวบ้านเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งสร้างรั้วหรือกำแพงกั้นแนวเขตแดนให้ชัดเจน หากเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้เปิดด่านชายแดนอีก เพราะกลัวปัญหาพิพาทซ้ำรอยเดิม และสงสารทหารแนวหน้าที่เสียสละชีวิต ไม่อยากให้เกิดการสูญเสียอีก สุรินทร์เร่งตรวจระเบิด 483 นัด ชาวบ้านทยอยกลับ ที่ จ.สุรินทร์ สถานการณ์คลี่คลายเช่นกัน ชาวบ้านเดินทางออกจากศูนย์อพยพกลับสำรวจบ้านและพักอาศัย หลังออกมานานกว่า 3 สัปดาห์ จังหวัดประกาศให้กลับได้ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 28 ธ.ค. เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป ชาวบ้านเก็บสัมภาระขึ้นรถส่วนตัวกลับบ้านจำนวนมาก เพราะห่วงทรัพย์สินและสัตว์เลี้ยง แต่บางส่วนยังไม่มั่นใจ รอครบ 72 ชั่วโมงหยุดยิงก่อน โดยเฉพาะชาวบ้านไทยนิยมใกล้ปราสาทตาควาย ที่จรวด BM-21 ตกใส่หมู่บ้านและนาข้าวเสียหาย ชาวบ้านจาก ต.กาบเชิง ต.ตะเคียน และ ต.ด่าน อ.กาบเชิง กว่า 283 คน ทยอยกลับจากศูนย์อพยพในวัด อ.เมือง เจ้าอาวาสมอบถุงยังชีพ 250 ถุง เหรียญพระราหูอมจันทร์ วัตถุมงคล ปิดท้ายด้วยปะพรมน้ำมนต์และผูกสายสิญจน์เพื่อความปลอดภัย วัดยังเปิดศูนย์ต่อสำหรับชาวบ้าน 100 คนที่ยังกังวล ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ลงพื้นที่ชุมชนตรวจสอบความปลอดภัยก่อนประชาชนกลับ พบร่องรอยกระสุนปืนใหญ่และจรวด BM-21 ตกในพื้นที่พลเรือน ไร่นา สวนยางพารา โดย อ.กาบเชิง และ อ.พนมดงรัก 483 นัด ต.บักใด 355 นัด เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจ เก็บกู้ และทำลายเพื่อความปลอดภัย สระแก้วบ้านพังจาก BM-21 รัฐเยียวยา 230,000 บาท ส่วน จ.สระแก้ว ฝ่ายความมั่นคงประชุมประเมินสถานการณ์และความปลอดภัย ก่อนให้ประชาชนกลับหลังครบ 72 ชั่วโมง แต่บางส่วนขอเจ้าหน้าที่สำรวจบ้านที่เสียหายจากอาวุธกัมพูชา เช่น บ้านของนายอำนาจ ตามตะขบ ชาวบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง ที่โรงจอดรถถูกจรวด BM-21 ตกจนเกิดไฟไหม้ โครงสร้างพังทับรถเก๋ง หลังคาและกำแพงทะลุ นายอำนาจบอกบ้านเสียหายเกือบทั้งหลัง ชีวิตเดือดร้อน รายได้ขาด รอเยียวยาจากรัฐ ชาวบ้านอพยพมานาน 21 วัน หวังกลับบ้าน จากการหารือ ได้ข้อสรุปให้กลับได้เช้าวันที่ 31 ธ.ค. หากใครอยากกลับก่อนก็ตามความสมัครใจ แต่ห้ามเข้าพื้นที่เสี่ยงอย่างบ้านคลองแผง บ้านหนองเสม็ด อ.ตาพระยา บ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จนกว่าจะปลอดภัย EOD จะตรวจสอบล่วงหน้า พบบ้านเสียหาย 116 หลัง ในจำนวนนั้น 8 หลังพังทั้งหลัง ผู้เสียหายได้ค่าซ่อมจากกองทุนสำนักนายกรัฐมนตรี 230,000 บาท วัสดุซ่อม 49,500 บาท ค่าเช่าบ้านเดือนละ 1,800 บาท ไม่เกิน 2 เดือน ค่าเครื่องมือประกอบอาชีพ 11,400 บาท ค่าเครื่องครัว 3,500 บาท ค่าเครื่องนุ่งห่ม 1,100 บาท ค่าเครื่องนอน 1,000 บาท ค่าซ่อมยุ้งข้าวหรือคอกสัตว์ 5,700 บาท โดยโยธาธิการจังหวัดประเมินจริง ชาวตราดรวมพลัง ทำอาหารส่งกำลังใจทหารแนวหน้า จ.ตราด แม้ไม่มีเสียงปะทะ แต่ชาวบ้านชำราก อ.เมือง ยังรวมกลุ่มทำเสบียงอาหารส่งทหารแนวหน้า ด้วยเนื้อหมู ไข่ไก่ ผัก อาหารสดและแห้ง กว่า 10 คนช่วยปรุงคาวหวาน 360 ชุด ส่งให้ทหารที่เทือกเขาบรรทัดและฐานที่มั่น นางถนอมศรี รัตนเศียร ชาวบ้านผู้ร่วมทำ บอกว่าอยากให้ทหารกินอิ่มแข็งแรง ปกป้องอธิปไตย แม้สถานการณ์คลี่คลายแต่ยังไม่ไว้วางใจกัมพูชา ชาวบ้านยืนยันทำต่อเนื่องจนมั่นใจว่าปะทะยุติจริงใจ อ่านข่าวอื่น : จีนยินดีข้อตกลงหยุดยิงไทย-กัมพูชา ย้ำเคารพหลักการไม่แทรกแซงภายใน "สีหศักดิ์" เยือนยูนนาน ร่วมประชุมไตรภาคี ไทย-จีน-กัมพูชา มุ่งหยุดยิงยั่งยืน ทร.ประเมินชายแดนจันทบุรี-ตราดเริ่มคลี่คลายให้ ปชช.กลับบ้านได้