วันนี้ (29 ธ.ค.2568) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมทนายความ เดินทางไปกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เพื่อนำข้อมูลมามอบให้กับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ไม่เคยรู้เห็นเกี่ยวกับการติดสินบนเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และทองคำแท่งจำนวน 246 บาท โดยพร้อมพิสูจน์ตัวเองในกระบวนการยุติธรรม พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานไม่เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เนื่องจากมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องนี้ตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค. แต่ลูกน้องคนสนิทของตนได้เข้าแจ้งความวันที่ 23 ธ.ค. และกล่าวหาตนเป็นผู้กระทำความผิดในคดีนี้ ทั้งที่คนแจ้งความเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีโดยตรง โดยเป็นคนนำทองคำทั้งหมดไปให้เพื่อติดสินบนกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ตามรายละเอียดในสำนวน แต่กลับไม่ถูกแจ้งความดำเนินคดี ส่วนกรณี พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย อดีตลูกน้องคนสนิทของตนเอง พลิกบทบาทเป็นพยานในคดีนำข้อมูลแจ้งความตนเองนั้น ยอมรับว่าเสียใจกับการกระทำที่เกิดขึ้น แต่เชื่อว่าไปหลงเชื่อคำกล่าวอ้างของบุคคลอื่น เพื่อจะได้กลับเข้ารับข้าราชการตำรวจอีกครั้ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ทุกวันนี้ที่ตนเองได้รับความเดือดร้อน เพราะลูกน้องคนสนิทไปเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน แต่เมื่อเกิดเรื่องกลับไม่มีใครถูกออกจากราชการ มีเพียงตนเท่านั้นที่ถูกให้ออกจากราชการ จึงเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นขบวนการกลั่นแกล้งตนเองให้ถูกดำเนินคดี พร้อมระบุว่าอีกหนึ่งประเด็นที่อาจทำให้ลูกน้องคนสนิทโกรธเคืองตน เชื่อว่าเป็นกรณีที่ไปไลฟ์เรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง พ.ต.อ.ภาคภูมิ กับมินนี่ ทำให้กระทบต่อครอบครัว จึงมีการโทรศัพท์มาต่อว่าตน ก่อนเกิดเรื่องทั้งหมดขึ้น อ่านข่าว ทนายกรรมการ ป.ป.ช.แจ้งความ "ภาคภูมิ" ปมคดีสินบนทอง 246 บาท ค้น 22 จุดเครือข่ายยาเสพติด จับ 7 ผู้ต้องหา ยึดทรัพย์กว่า 216 ล้าน ปส.บุกจับ ผู้สมัคร สส.กทม. พรรคประชาชน เอี่ยวฟอกเงินยาเสพติด 2 หมื่นล้าน ปชน.ยันผู้สมัคร สส.กทม.ถูกออกหมายจับ เร่งเปลี่ยนตัวผู้สมัครให้ทัน 31 ธ.ค.