วันนี้ (30 ธ.ค.2568) การประเมินจากศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ชี้ว่าเทศกาลปีใหม่ 2569 จะมีมูลค่าการใช้จ่ายทั่วประเทศสูงสุดในรอบ 6 ปี โดยอยู่ที่ประมาณ 111,001 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 จากปีก่อนหน้า แม้ภาพรวมจะคึกคัก แต่ปัจจัยหลักที่กดดันประชาชนคือภาวะเศรษฐกิจที่กำลังซื้อหดตัวและรายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่าย ส่งผลให้หลายคนต้องชั่งใจก่อนตัดสินใจเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงหยุดยาวนี้ จากการสำรวจที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (หมอชิต 2) และสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการวางแผนค่าใช้จ่ายอย่างละเอียด ค่าเดินทางเป็นรายการหลัก ตั้งแต่ 200 - 800 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทางและรูปแบบการเดินทาง ตามด้วยค่าของขวัญ ของฝาก ค่าอาหาร และค่าเลี้ยงสังสรรค์ ซึ่งอาจสูงถึงหลักพันจนถึงหลักหมื่นบาท บางรายยังต้องเตรียมเงินส่วนหนึ่งมอบให้ครอบครัวที่บ้านก่อนเดินทางกลับ ภาพคุ้นตาในทุกปีคือการหอบของฝากจำนวนมาก บางคนใช้กระเป๋าหลายใบหรือรถเข็นเพื่อขนส่งของขวัญให้ญาติสนิท ตัวอย่างเช่น นิสา วิชัยศรี แรงงานก่อสร้างในกรุงเทพฯ จาก จ.ร้อยเอ็ด เผยว่าปีนี้ตั้งใจเก็บเงินเพื่อกลับไปหาลูก โดยเตรียมงบประมาณราว 20,000 บาท โชคดีที่รายได้ดีกว่าปีที่แล้ว ทำให้เก็บเงินได้ตามแผน แต่หากปีไหนรายได้น้อยและเงินไม่พอใช้จ่าย ก็อาจต้องยกเลิกแผนการเดินทางเพื่อหลีกเลี่ยงภาระทางการเงิน สอดคล้องกับการประเมินของ รศ.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี ม.หอการค้าไทย ที่ระบุว่าปีใหม่นี้ประชาชนยังคงระมัดระวังการใช้จ่าย แม้มูลค่ารวมจะเพิ่มขึ้น แต่ส่วนหนึ่งมาจากค่าครองชีพที่สูงกว่าปีก่อน โดยเงินส่วนใหญ่ไหลไปสู่การท่องเที่ยวในประเทศ การอุปโภคบริโภค การสังสรรค์ จัดเลี้ยง และการทำบุญตามประเพณี นอกจากนี้ ประชาชนหลายรายยังกังวลเรื่องการวางแผนการเงินหลังกลับจากเทศกาล โดยบางคนยอมรับว่าอาจต้องนำทรัพย์สินไปจำนำเพื่อสร้างสภาพคล่อง แต่หลายฝ่ายมองว่าต้นทุนเหล่านี้คุ้มค่า เนื่องจากเป็นการเติมกำลังใจให้ครอบครัวและตัวเอง เพื่อกลับมาทำงานต่อไปด้วยพลังใหม่ สะท้อนสัญญาณเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบาง แต่ประชาชนยังคงยึดมั่นในคุณค่าของการรวมญาติในช่วงปีใหม่ อ่านข่าวอื่น : ทภ.2 ยันชายแดนไร้ปะทะ พบกัมพูชาขนกำลัง-โดรนสอดแนม ทรัมป์ชมเนทันยาฮู หยุดยิงตามแผน 100% เร่งคุย "สันติภาพกาซา" เฟส 2 "เท่าพิภพ" สมัคร สส.กทม.เขต 33 ลั่น ปชน.จะทวงคืนความไว้วางใจ