ไทยยันกำลังพิจารณาปล่อย 18 ทหาร หลังกัมพูชาอ้างถูกผิดสัญญา

เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.2568 หลังจากข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชามีผลบังคับใช้ เกิดกรณีพบโดรนบินล้ำเขตแดน ทำให้กระทรวงการต่างประเทศของไทยต้องชะลอการตัดสินใจปล่อยตัวทหารกัมพูชา 18 นายที่ถูกควบคุมตัวมานาน เมื่อครบกำหนด 72 ชั่วโมงของการเฝ้าระวังหลังหยุดยิง ทางการไทยยังคงอยู่ระหว่างพิจารณา โดยวันที่และเวลาการปล่อยตัวจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของฝ่ายความมั่นคง นายนิกรเดช พลางกูร โฆษกกระทรวงการต่างประเทศไทย กล่าวย้ำถึงประเด็นนี้ เพื่อให้มั่นใจในความมั่นคงของพื้นที่ชายแดนที่เพิ่งคลี่คลายจากเหตุปะทะเมื่อเดือนกรกฎาคม ซึ่งทหารทั้ง 18 นายถูกควบคุมตัวมานานถึง 155 วัน ด้านสื่อขแมร์ไทมส์ของกัมพูชาได้รายงานด้วยความผิดหวัง โดยอ้างว่าการตัดสินใจของไทยไม่เป็นไปตามพันธกรณีตามข้อ 11 ของถ้อยแถลงร่วมจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ซึ่งกำหนดให้ปล่อยตัวทหารตามกำหนดหลังครบ 72 ชั่วโมง โดยกัมพูชาได้เตรียมพิธีต้อนรับที่ จ.ไพลิน แล้ว มีครอบครัวของทหารมารอรับด้วยความหวังที่จะได้รวมญาติในช่วงปีใหม่ แต่ทางการไทยอ้างเหตุผลหลักคือการตรวจพบโดรนมากกว่า 250 ลำรุกล้ำน่านฟ้าของไทย ขณะที่กระทรวงกลาโหมกัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาอย่างสิ้นเชิง โดยยืนยันว่าไม่มีโดรนถูกปล่อยจากฝั่งตน และได้ออกคำสั่งห้ามใช้โดรนทุกประเภททั่วประเทศอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดที่อาจนำไปสู่ความตึงเครียดใหม่ ในขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้จัดการบรรยายสรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาให้แก่คณะทูตและผู้แทนหน่วยงานระหว่างประเทศ โดยมีผู้เข้าร่วมจาก 60 ประเทศ 1 องค์กร และ 3 องค์การระหว่างประเทศ รวม 78 คน เพื่อให้ข้อมูลที่ชัดเจนและโปร่งใส นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ ได้ชี้แจงถึงการประชุมสำคัญ 3 ครั้งที่ไทยเข้าร่วม ได้แก่ การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนสมัยพิเศษที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. การประชุม GBC สมัยพิเศษระหว่างวันที่ 24-27 ธ.ค. และการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ 3 ฝ่ายที่ทะเลสาบฝู่เซียน มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 28-29 ธ.ค. โดยย้ำว่าท่าทีของไทยในเวทีอาเซียนคือการหยุดยิงต้องมาจากการพูดคุยระหว่างทหารทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ใช่การประกาศฝ่ายเดียว ซึ่งนำไปสู่ข้อตกลงหยุดยิงร่วมกันใน GBC และการหารือระหว่างรัฐมนตรีที่จีน ซึ่งจีนทำหน้าที่อำนวยความสะดวกโดยไม่แทรกแซง แต่ปล่อยให้ทั้ง 2 ฝ่ายดำเนินการตามจังหวะของตน นายสีหศักดิ์ ยังเน้นย้ำประเด็นสำคัญคือการสร้างหยุดยิงที่ยั่งยืน ผ่านมาตรการสร้างความไว้วางใจระหว่างกัน โดยต้องดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอนเพื่อให้เกิดผลถาวร ในช่วงตอบคำถามสื่อต่างชาติ รัฐมนตรีได้ระบุว่าจีนเสนอให้ความช่วยเหลือ แต่ไทยหวังว่าจะไม่จำเป็นต้องพึ่งพา เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศมีเป้าหมายร่วมกันแล้ว และควรแก้ปัญหาด้วยตนเอง ขณะที่นายนิกรเดช โฆษกกระทรวงการต่างประเทศไทย เสริมว่าความช่วยเหลือจากจีนจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อไทยและกัมพูชาเห็นพ้องต้องกันว่าจำเป็น โดยไทยให้ความสำคัญกับการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดน หลังจากมีผู้ได้รับบาดเจ็บสะสมถึง 11 คน นอกจากนี้ สำหรับข้อเสนอของกัมพูชาที่ผลักดันให้จัดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ในสัปดาห์แรกของเดือน ม.ค. ไทยรับทราบและพร้อมรับฟัง แต่ต้องทบทวนให้สอดคล้องกับมติจากประชุมอาเซียนพิเศษและ GBC ก่อน เพื่อให้การแก้ไขปัญหาชายแดนเป็นไปอย่างรอบคอบและยั่งยืน อ่านข่าวอื่น : ปีใหม่ไร้รวมญาติ ชาวสุรินทร์ยังกังวลชายแดน ไม่ให้ลูกหลานกลับมาเยี่ยม เร่งเก็บกู้กระสุนปืนใหญ่เหตุปะทะชายแดน คืนพื้นที่ปลอดภัยให้ชาวบ้าน 12 ฉายาคนกีฬา 2568 "ก้องศักด" รับจบทุกดรามา - ส.ฟุตบอล "เดอะแบก"